ผู้ติดเชื้อ HIV ที่มีค่า CD4 ต่ำกว่าเกณฑ์มากจะได้รับการจ่าย ยาต้านไวรัส HIV หรือ เรียกย่อว่า ARV (Antiretroviral drugs) โดยหลักการทำงานของยาต้านไวรัส คือ ARV จะทำการหยุดการเติบโตของไวรัสทำให้ไวรัสทำงานช้าลง ก่อนจะไปดูรายละเอียดของ ARV แต่ละประเภท เราต้องมาเข้าใจวงจรของ HIV ก่อน เพราะ ยาต้านไวรัส HIV แต่ละแบบออกแบบมาเพื่อต่อกรกับ HIV ในแต่ละช่วงอายุ
อ่านเรื่องเกี่ยวกับ CD4 คืออะไร
วงจรชีวิตของ HIV
1. Binding and entry
ในระยะนี้ เชื้อไวรัสจะจับกับ plasma membrane ของเซลล์โดยใช้ envelop glycoprotein จับกับ receptor ต่าง ๆ บนผิวเซลล์ เช่น CD4
2. Uncoating and reverse transcription
เมื่อ viral core เข้าไปอยู่ในเซลล์ ลำดับต่อมาจะเกิดการ uncoating คือ ปล่อยยีโนมและเอนไซม์ออกจาก core particle และเปลี่ยน RNA เป็น DNA โดยเอนไซม์ RT
3. Nuclear entry
DNA จะเข้าไปในนิวเคลียสโดยผ่านทาง nuclear membrane โดยที่ proviral DNA จะ from complex กับโปรตีนต่าง ๆ เป็น preintegration complex ซึ่งมีเอนไซม์ integrase อยู่ด้วย
4. Integration and transcription
เอนไซม์ integrase จะทำหน้าที่แทรก DNA ของไวรัสเข้าไปใน chromosome DNA ซึ่งมีตำแหน่งไม่แน่นอน ที่เราเรียกว่า provirus และอาจจะไม่แสดงอะไรออกมาเป็นปี ๆ จนกว่าจะมีสิ่งกระตุ้นจะเกิดการ transcription ของ proviral DNA โดยเอนไซม์ RNA polymerase II จาก host cell ไปเป็น viral RNA ซึ่งจะออกจากนิวเคลียสไปอยู่ใน cytoplasm
5. Translation, assembly and budding
ภายใน cytoplasm ของเซลล์ proviral RNA ทำหน้าที่ 2 อย่างคือ เป็นยีโนม RNA ของไวรัสตัวใหม่ หรือเป็น mRNA ซึ่งจะถูก translate ไปเป็นโปรตีนต่าง ๆ ของไวรัส จากนั้นโปรตีนและยีโนม RNA จะรวมตัวกันเป็นอนุภาคไวรัสตัวใหม่ออกจากเซลล์โดย budding และใช้ plasma membrane ของ host cell เป็นเปลือกหุ้ม จากนั้นไวรัสก็จะสามารถเข้าไปติดเชื้อเซลล์ตัวอื่น ๆ ใกล้เคียงได้
ยา ARV มีหลายขนานซึ่งใช้ในการต่อสู้กับ HIV ในแต่ละช่วงภายในวงจรของ HIV ที่กล่าวไปข้างต้น
HIV ทำให้เกิด AIDS ได้อย่างไร (HIV pathogenesis)
เอดส์ เป็นระยะสุดท้ายของ HIV infection เป็นระยะที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายถูกทำลายจนไม่สามารถต่อสู้กับเชื้อฉวยโอกาสต่าง ๆ ได้ (opportunistic infection) การดำเนินโรคของ HIV นับตั้งแต่เริ่มติดเชื้อใหม่ ๆ จะมีไวรัสมากในกระแสเลือด ต่อมาระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทั้ง humoral immunity และ cellular immunity จะมีการทำลายไวรัสและทำลายเซลล์ที่ติดเชื้อซึ่งเป็นการจำกัดขอบเขตและการลุกลามของโรคแต่พอถึงระยะหนึ่งจะมีการลดลงของเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิด CD4 (T helper cell)
การใช้ยาต้านไวรัส HIV ในผู้ป่วยส่วนใหญ่ทำให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ บ่อยครั้งที่ผู้ป่วยรู้สึกว่าร่างกายแย่กว่าก่อนได้รับยาต้านไวรัส
อ่านเรื่องเกี่ยวกับ ผลข้างเคียงยาต้านไวรัส HIV
จากผลงานวิจัยของ APCO ทำให้พบกับทางเลือกใหม่ในการเพิ่ม CD4 ในกระแสเลือด
การใช้ยา ARV ในผู้ป่วยบางรายไม่ได้เพิ่มระดับ CD4 ให้สูงขึ้น แต่ทำหน้าที่เพียงแค่พยายามหยุดเซลที่ผิดปกติให้ทำงานช้าลง แต่จากงานวิจัย LIV Capsule ของ APCO cap ประสบความสำเร็จในการที่จะให้ร่างกายได้ต่อสู้กับเชื้อไวรัสด้วยตัวเอง โดยการเพิ่ม cd4 ในร่างกาย ด้วยวิธีนี้คุณจะปลอดภัยกับการดื้อยาและกลายพันธุ์ของเชื้อ มาเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้ติดเชื้อให้ดีขึ้นด้วย Liv capsule กันเถอะ หรืออ่านข้อมูลเกี่ยวกับ งานวิจัย APCO CAP ได้เพิ่มเติม เพื่อแบ่งปันให้กับคนในสังคม